Monday 7 March 2016

จิ้มจุ่มฝรั่ง - ฟองดู หรือ ฟงดูว์ - FONDUE อาหารฤดูหนาว



“ฟองดู” (Fondue หรือ Fondre) มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ทำให้ละลาย หรือ การต้ม เป็นอาหารที่ชาวสวิสและฝรั่งเศสนิยมกินกันในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากการกินนั้นเป็นลักษณะของหม้อไฟ ซึ่งให้ความอบอุ่นในยามที่กินอยู่ด้วย

มาดูข้อความเกี่ยวกับฟองดู ตามวีกีพิเดีย ว่ามาดีกว่าค่ะ มีรายละเอียดอะไรอย่างไรกันบ้าง ...



ฟองดู ของดิฉัน แต่ ฟงดูว์ของวีกิพีเดีย ... ได้แจกแจงรายละเอียดไว้ดังนี้ค่ะ

ฟงดูว์ (ฝรั่งเศส: fondue) หรือ ฟอนดูตา (อิตาลี: fonduta) เป็นอาหารสวิส อาหารอิตาลี และอาหารฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง

ประกอบด้วย : เนยแข็งละลายกับไวน์ขาวและเครื่องปรุงรส เสิร์ฟในหม้อเคลือบกาเกอลง (caquelon) (กาเกอลง คืออะไรอีกหละเนี่ย...) ซึ่งตั้งไว้บนเตาแบบพกพา แล้วใช้ส้อมด้ามยาว จิ้มขนมปัง จุ่มลงไปในเนยที่ละลายอยู่นั้น เพื่อรับประทาน นี่คือ วิธีการกินแน่ๆ ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ

ฟงดูว์ได้รับการส่งเสริมให้เป็นอาหารประจำชาติของสวิตเซอร์แลนด์ในคริสต์ทศวรรษ 1930 โดยสหภาพเนยแข็งสวิส (Schweizerische Käseunion) และได้รับการเผยแพร่จนเป็นที่นิยมในอเมริกาเหนือในคริสต์ทศวรรษ 1960

ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา ได้มีการนำชื่อ "ฟงดูว์" ไปใช้เป็นคำทั่วไปเพื่อเรียกอาหารชนิดอื่นที่มีการจุ่มอาหารลงในของเหลวร้อน ๆ ในหม้อไฟที่ใช้ร่วมกัน ได้แก่ ฟงดูว์ช็อกโกแลต



ซึ่งใช้ผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้น ๆ จุ่มลงไปในส่วนผสมช็อกโกแลตเหลว และ "ฟงดูว์บูร์กีญอน" หรือฟงดูว์แบบอย่างบูร์กอญ (fondue bourguignonne) ซึ่งใช้เนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อวัว) หั่นเป็นชิ้นพอคำ จุ่มลงในน้ำมันร้อน

คำว่า fondue เป็นรูปกริยาขยายในอดีตกาล กรรมวาจก เพศหญิง (feminine passive past participle) ของคำกริยาฝรั่งเศส fondre (แปลว่า "ทำให้ละลาย") ซึ่งในที่นี้ทำหน้าที่เป็นคำนาม[1] ปรากฏหลักฐานการใช้คำนี้เป็นชื่ออาหารเป็นครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1735 ในตำรา Cuisinier moderne ของแว็งซ็อง ลา ชาแปล พ่อครัวชาวฝรั่งเศส[2] และปรากฏครั้งแรกในภาษาอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1878[3]

[1] Trésor de la langue française, s.v. fondre, etymology section B.3.a.
[2] Vincent la Chapelle, Le cuisinier moderne p. 220
[3] Oxford English Dictionary, Second edition, 1989; online version November 2010. s.v.



มันก็คือ อาหาร ที่นำทั้งผักและเนื้อสัตว์ลงไปจุ่มในหม้อน้ำซุป น้ำมัน ชีส และ ช้อคโกแลต แต่จิ้มจุ่มบ้านเราเป็นน้ำซุปสมุนไพรร้อนๆ แล้วนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด แต่ ฟองดูว์แบบบ้านเรา ที่ดิฉันนิยม ก็มี 3-4 แบบ (ที่อื่นๆ อาจมีมากกว่านี้) แต่ขอแบ่งปันที่ ตนเองชอบ 3 ชนิดเท่านั้น ค่ะ นี่ก็จิ้มไม่ทันแล้ว ... ส่วนน้ำจิ้มต่างๆ น้ำจิ้มฟองดูสำเร็จรูป เรายังสามารถหาซื้อได้จากซุปเปอร์มาเก็ต ตามรสที่ชอบได้เลยค่ะ (เมืองไทยซะอย่างนะคะ)



ฟองดูว์น้ำมัน

ฟองดูน้ำมัน หรือ Fondue Bourguignon (ฟองดูบัวร์กินยอง) ฟองดูแบบนี้จะเสิร์ฟมาเป็นหม้อสแตนเลส ใส่น้ำมันพืชและตั้งไฟให้ร้อน เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะ เนื้อวัว ไก่ กุ้ง หมู ปลา ฯลฯ เวลากินก็นำใช้เหล็กแหลมยาวจิ้มเนื้อสัตว์จุ่มลงในน้ำมันร้อนๆ พอสุกได้ที่ก็จิ้มกับซอสที่เสิร์ฟมาพร้อมกันเพิ่มรสชาติ และยังมีเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาให้กินคู่กันด้วย นั่นก็คือ สลัดผักและขนมปังกระเทียม

ส่วนประกอบฟองดูว์น้ำมัน

1. น้ำมัน (มะกอกก็จะดีค่ะ)

2. เนื้อแกะ ไก่ หมู เนื้อวัว ปลา กุ้ง

3. สลัดผัก ประกอบ

4. ขนมปังกระเทียม

5. ผักดองต่างๆ กระเทียมโทนดอง (นี่ก็อร่อยค่ะ)

6. ซอสต่างๆ
ฟองดูว์ชีส

ฟองดูชีส นับว่าเป็นฟองดูสไตล์สวิสแท้ๆ เวลาเสิร์ฟจะมาครบชุดแบบมีหม้อตั้งไฟ ภายในเป็นชีสที่จะใช้ชีสละลายผสมกับไวน์ขาวแล้วตุ๋นอยู่ในหม้อที่ตั้งไฟ เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังอบกรอบ เวลากินจะต้องใช้ไม้พายคนชีสไปเรื่อยๆ แล้วใช้แท่งเหล็กปลายแหลมยาวจิ้มขนมปังแล้วจุ่มชีสร้อนๆ จะเห็นว่าชีสเหนียวหนืดยืดติดกับขนมปังขึ้นมา ตัวชีสหอมๆ มันๆ กินเข้ากันกับขนมปังกรอบเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันอาจจะมีการเสิร์ฟผลไม้ เนื้อสัตว์ หรือขนมปังอื่นๆ ให้กินคู่กับฟองดูชีสด้วย

ส่วนประกอบฟองดูว์ชีส

1. ชีสผสมไวน์ขาว

2. เนื้อแกะ ไก่ หมู เนื้อวัว ปลา กุ้ง

3. ขนมปังอบกรอบหั่นเต๋า หรือขนมปังอื่นๆ ที่ทานกับชีสได้

4. สลัดผัก

5. ผักดองต่างๆ

6. ซอสต่างๆ

ฟองดูว์ช็อคโกแล๊ต

ฟองดูช็อกโกแลต เป็นฟองดูของหวาน ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือจะใช้ช็อกโกแลตมาละลายอยู่ในหม้อ (อาจจะใส่เหล้าลงไปเล็กน้อยเพิ่มกลิ่นหอม) ตั้งไฟให้ช็อกโกลแลตอุ่นละลายดี เสิร์ฟคู่กับผลไม้สด อาทิ กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ล กีวี่ ฯลฯ หรืออาจจะมีขนมปังกรอบเป็นแท่งๆ และเบเกอรี่อื่นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย เวลากินก็จิ้มผลไม้ต่างๆ จุ่มลงในช็อกโกแลต ก็จะได้ลิ้มรสชาติของช็อกโกแลตเข้มข้น

ส่วนประกอบฟองดูว์ช้อคโกแล๊ต

1. ช้อคโกแล็ต

2. ผลไม้ต่างๆ ตามฤดูกาล



ซอสที่เขาใช้ๆกันในบ้านเรา ก็มี..ตามนี้ค่ะ

ซอส Rhode Island (ถ้าตามสูตรจริง) เขาใส่ครีมเฟส มายองเนส ซอสมะเขือเทศข้น หั่นพร๊อมพริก เกลือ พริกไทย
แต่บางท่านชอบแบบแค่ มายองเนสผสมซอสพริก เท่านั้นแหละค่ะ

ซอส Thousand Island ตามร้าน หรือจะจัดทำเอง ก็ใส่ มายองเนส ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หัวหอมหั่น พริกไทย มะกอกเขียวหั่น และไข่ต้มหั่น

ซ้อสน้ำจิ้มซีฟู๊ด

ซ้อสอื่นๆ ตามชอบ (หาซื้อได้จากซุปเปอร์มาเก็ต ตามรสที่ชอบได้เลย)

TIP :  แบบไทยๆ เราสามารถหาเครื่องเคียงแบบบ้านเราก็ได้เป็นเครื่องเคียงแบบไทย ๆ กันเลี่ยน เช่น ส้มตำ ข้าวสวย น้ำจิ้มแจ่ว


หม้อฟองดูว์ ปัจจุบันก็มีขายหาซื้อได้ตาม Lazada เลยค่ะ

แต่ถ้าร้านแนะนำตอนนี้ก็ที่นี่เลยค่ะ  http://www.maamjourney.com/2016/fondue-and-steak-house-phaholyothin-soi9/

Fondue & Steak House สวรรค์ของคนรักฟองดูว์เลยนะมีหลากหลายของเมนูอาหารที่มากขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ดีมาก เพราะในกรุงเทพฯ จะมีร้านแบบนี้เหลือน้อยถึงน้อยมาก อยากให้ทุกคนมาลองชิมกันค่ะ

ที่อยู่ : 2 ซอยพหลโยธิน 9 (ชำนาญอักษร) ถนนพหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
พิกัดการเดินทาง: แยกซอยชำนาญอักษร ซอยพหลโยธิน 9 จาก BTS อารีย์ ห่างไป 800 เมตรโดยประมาณ

แต่ถ้าไป จว. น่าน ก็แวะไปที่ Eatting More ค่ะ อยู่แถวไหนก็ยังไใม่แน่ใจค่ะ ..ไว้จะมาอัพเดทอีกทีค่ะ ... 

No comments:

Post a Comment