Thursday 5 September 2013

นี่หรือสติปัญญาของคนเคยเรียนเป็นที่ 1 ของภาคใต้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง???

นี่หรือ ... สติปัญญาของคนเคยเรียนเป็นที่ 1 ของภาคใต้ นายก่อแก้ว พิกุลทอง???

จริงๆ แล้ว วันนี้ว่าจะไปคอมเม้นท์หรือ ติดตามข่าวจากช่องฟรีทีวีทั้งหมด เพราะไม่เป็นธรรมและ ไม่มีความน่าเชื่อถือในการเสนอข่าวเอาเสียเลย แต่ด้วยร่างกายไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อนอ่อนเพลียมา 2 วันแล้ว(ห่วงอยู่ว่าจะโดนไข้เลือดออกทำพิษเอา) ก็เลยทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านอนซมดมพิษไข้ นอนไปด้วย จำต้องทนดูทีวีไปด้วย แล้วก็ได้ยินคำวิจารณ์อันเผ็ดร้อนของนายคนนี้ ว่าทีสมัยก่อนราคายาง 52 บาทยังอยู่ได้เลย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสมัยของประชาธิปัตย์ ทำไมไม่เห็นชาวสวนยางลุกขึ้นมาเรียกร้อง ทีตอนนี้ 80 บาทอยู่ไม่ได้ ??? ห่ะ ไอ้ควายตัวนี้เป็นใคร.ชักบ่อย ชักเยอะ..อิขั้นนอนฟังได้ยินประโยคสตึ สมองหมาปัญญาควายปานฉะนี้ ออกสื่อได้ด้วยเหรอ???

อะไรว๊ะ นายคนนี้พูดจากแบบนี้ได้ไง เป็นวาจาแสดงสมองควายแก่ๆ สงสัยนิ่งนักไอ้ลูกหมาตัวนี้เป็นใคร ลุกขึ้นมาวิจารณ์ชี้นำอะไร เพื่ออะไร คิดไม่ได้เหรอว่าในเมื่อสมันนั้น โคตรพ่อ โคตรแม่มันไม่ต้องจ่ายค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน และ ค่าอะไรต่อมิอะไร ที่มาจากฝีมืออีผีบ้าตนหนึ่งลุกขึ้นมาทำให้มันอยู่ในสถานภาพรอวันฉิบหายแบบนี้

แบบนั้นถึงยางจะกิโลละแค่ 50 บาท โคตรพ่อง โคตรแม่ง หรือใครๆ ที่ไหนก็อยู่ได้ หากไข่ ยังราคา 1.50 บาท ไม่ใช่ 6 บาท 80 สตางค์ อย่างวันนี้..


เลยต้องตะกายมาค้นดูดูประวัตินายก่อแก้วฯ ...เขาเป็นใคร อายุอานามเท่าไร ทำไมช่างมีสติปัญญาและวาจาสตึๆ เช่นนี้ ... เห็นแล้วต้องตกตะลึง..อนิจา นายคนนี้เป็นคนใต้ แต่กำเนิด..มีชีวิตแบบเห็นและรับรู้การใช้ชีวิตของชาวสวนยางมาตลอดชีวิต ...แล้วอะไรทำให้นายคนนี้ไร้ซึ่งความยุติธรรม ไม่เห็นแก่ชีวิตพี่น้องชาวสวนยางนอกจากจะคอยถากถางซ้ำเติมคนใต้ ชาวใต้ ...


ประวัตินายก่อแก้ว..

นายก่อแก้ว พิกุลทอง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2508 ที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา จบการศึกษามัธยมปลายจาก โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เคยสอบได้ที่ 1 ของภาคใต้ ในการสอบแข่งขันของสมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย ทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม เมื่อปี พ.ศ. 2526 จบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (เกียรตินิยม) เมื่อ พ.ศ. 2531 และจบปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (เกียรตินิยม) เมื่อ พ.ศ. 2542 ในระหว่างศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้รับเลือกให้เป็นประธานนักศึกษาปริญญาโท...

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ได้รับการแต่งตั้งจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เป็นกรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) เมื่อสิงหาคม พ.ศ. 2548 เพื่อทำหน้าที่ศึกษาความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาของ ร.ส.พ. ที่ขาดทุนมานานเกือบ 20 ปี หลังจากเข้าไปทำงานศึกษาพิจารณาข้อมูลรอบด้านแล้ว ได้เสนอ 2 ทางเลือกให้คณะกรรมการพิจารณา คือ ฟื้นฟูกิจการอย่างเบ็ดเสร็จ หรือปิดกิจการ ในที่สุดคณะกรรมการฯ มีมติให้ปิดกิจการรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการมากว่า 59 ปี และเป็นการปิดกิจการรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยปิดกิจการมา (มีพนักงานประมาณ 1,600 คน) ในระหว่างที่กำลังจะปิดกิจการ ได้มีการต่อต้านจากพนักงานที่ไม่เห็นด้วยประมาณ 200 คน อย่างต่อเนื่อง นานนับเดือน แต่สามารถประคับประคองให้การปิดกิจการเป็นไปอย่างเสียหายน้อยที่สุด โดยการปิดกิจการได้ถูกมองว่า เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนเอกชนเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากธุรกิจซึ่งมีมูลค่าและสามารถแสวงหากำไรได้ โดยมีสัญญาสัมปทานกับรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการและเอกชน ซึ่งได้มีการฟ้องศาลปกครองให้ระงับการยุบ รสพ. สำหรับที่ดินใจกลางเมือง บริเวณซอยรางน้ำ ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี ซึ่งเมื่อองค์การ ร.ส.พ. ย้ายออกไป ได้เปิดให้บริษัทคิง พาวเวอร์ จำกัด เช่าที่ดินสร้างเป็นศูนย์การค้าคิง พาวเวอร์ คอมเพล็กซ์

เริ่มเล่นการเมือง

ก่อแก้ว พิกุลทอง ได้รับการชักชวนจาก "จตุพร พรหมพันธุ์" และ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ให้ร่วมจัดรายการด้านเศรษฐกิจที่"พีทีวี" แต่ "ไม่เคยได้จัด" เพราะสถานีไม่เคยได้รับอนุญาตจากรัฐบาลในขณะนั้นให้ออกอากาศได้ จึงไปเป็นแกนนำร่วมกับบุคคลอื่นในการต่อต้าน คมช. ที่ท้องสนามหลวงแทน ต่อมาในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้อนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ NBT ออกอากาศรายการความจริงวันนี้ ก่อแก้วจึงได้มีโอกาสร่วมรายการเป็นพิธีกรรับเชิญ "แทนพิธีกรคนอื่นที่ติดภารกิจ" ก่อแก้ว เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเคยจัดรายการมหาประชาชน และรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีประชาชน People's Channels อยู่บ่อยครั้ง

ต่อมาในการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 6 ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 แทนนายทิวา เงินยวง จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเสียชีวิตลงนั้น นายก่อแก้ว พิกุลทอง ได้รับเลือกจากพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนของพรรคสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว ผลปรากฏว่าได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 รองจากพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ลงสมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

ในการเลือกตั้งทั่วไป 3 กรกฎาคม 2554 นายก่อแก้ว สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 54[6] และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เนื่องจากมีพฤติการณ์ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และปราศรัยพูดจายุยง ปลุกปั่น และปลุกระดม ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นการผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว ทำให้นายก่อแก้วถูกควบคุมอยู่ใน เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ แต่ระหว่างที่เปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายก่อแก้วได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่ต้องอยู่ในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ภายหลังปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556ที่ผ่านมา นายก่อแก้ว จำเลยที่ 5 จึงต้องมารายงานตัวต่อศาลและฟังคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญามีคำสั่ง ไม่ให้ประกันนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.เพื่อไทย และจำเลยคดีก่อการร้าย เนื่องจากเห็นว่ายังมีพฤติกรรมข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ นายก่อแก้ว ถูกควบคุมตัวไปยังที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ เขาพ้นจากเรือนจำ ในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 รวมระยะเวลาถูกจำคุก 37 วันตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อ้อ..นี่ก็เป็นอีก 1 คนที่รอการนิรโทษกรรม เพื่อตนเองจะได้รอดพ้นความชั่วที่ก่อไว้...

น่าเสียดายแทนคนภาคใต้ที่มีคนที่เรียนเก่งขนาดนี้ มี record โบว์แดงขนาดนี้ แต่อนิจจา สิ่งนี้ไม่ได้บอกว่า คน คนนี้จะเป็นคนดีได้ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างขององค์กรต่างๆ ที่มุ่งเน้นเห้นหาคนเก่ง เพราะส่วนใหญ่คนเก่ง มักชั่วนำโด่งมาด้วย ... ขอให้ทุกท่านได้พบกับคนเก่ง และ ดี อย่าได้พบกับคนเก่งและชั่วแบบนี้เลย เพราะมันทำให้รู้สึกเสียคายรางวัลต่างๆ ที่คนแบบนี้เคยได้ไป..เพราะไม่ควรเปิดประตูใดๆ ให้โอกาสความชั่วเบ่งบานและเติบโต มีวิธีการเดียวคือ ตัดโอกาส แช่แข็งเชื้อชั่วเสีย...ทำได้เท่านี้ 

No comments:

Post a Comment