คู่รักปาท่องโก๋ หรือคู่ซี้ปาท่องโก๋ ที่เราเคยได้ยินกันมาบ่อย ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นการตีความหมายที่ผิด ๆ ไปเสียแล้ว เพราะตามตำนานของจีน ปาท่องโก๋ (Deep-fried dough stick) ขนมแป้งทอดกรอบแสนอร่อยที่ประกบคู่กันนี้ เป็นขนมที่ชาวจีนในสมัยราชวงศ์ซ้องได้คิดทำขึ้นมาเพื่อแสดงความแค้นกับบุคคลที่ขายชาติ จึงกำหนดให้เวลาเรากินปาท่องโก๋จึงต้องฉีกออกจากกัน เอ๊ะยังไง อย่างนั้นลองไปดูตำนานปาท่องโก๋กันเลยดีกว่าค่ะ
โดยเรื่องราวของตำนานที่ว่าก็คือ เมื่อครั้งสมัยราชวงศ์ซ้อง ชาวจีนมีแม่ทัพผู้จงรักภักดีต่อชาติชื่อว่า งักฮุย เป็นแม่ทัพที่ซื่อตรง ซื่อสัตย์ รักชาติ และยึดมั่นในอุดมการณ์ของนักรบเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลนี้เขาจึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน และกลายเป็นแม่ทัพขวัญใจประชาชนทั่วแคว้น รวมถึงเป็นทหารที่องค์ฮ่องเต้ชื่นชมอยู่พอสมควร แต่เหตุการณ์น่าสลดก็เกิดขึ้นกับงักฮุย เมื่อฉินฮุ่ย และภรรยา เกิดคิดกบฏ และหวังจะขายชาติ และทำทุกวิธีการเพื่อโค่นล้มกองทัพของงักฮุย ร้ายแรงถึงขั้นใส่ร้ายป้ายสีจนงักฮุยจนถูกตัดสินประหารชีวิต ทำให้ประเทศจีนในตอนนั้นสูญสิ้นแม่ทัพคนดีของประชาชนชาวจีนไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยเหตุนี้ประชาชนที่ทราบข่าวว่าแม่ทัพผู้เป็นที่รักของตนถูกตัดสินประหารชีวิต ก็พากันนำแป้งสาลีมาปั้นเป็นรูปฉิน ฮุ่ยและภรรยา แล้วก็นำแป้งมาประกบกัน จากนั้นก็ทอดในน้ำมัน กลายเป็นขนมอิ๋วจ้าฮุ่ย หรือแปลเป็นไทยก็คือ ฉินฮุ่ยทอดน้ำมัน และฉีกออกก่อนรับประทาน เพื่อแสดงความแค้นแก่คนชั่วทั้งสองที่เป็นสาเหตุทำให้แม่ทัพผู้เป็นที่รักต้องจบชีวิตลง
คนไทยเรารู้จักกับปาท่องโก๋พร้อมกับคนจีนแต้จิ๋วที่อพยพเข้ามา ในเมืองไทย ในช่วงรัชกาลที่ 6 แต่ในสมัยนั้นคนจีนแต้จิ๋ว จะเรียกปาท่องโก๋ว่า อิ้วจาก้วย หรือ อิ่วเจี่ยโก้ย จนต่อมาก็เพี้ยนมาเป็น ปาท่องโก๋ ที่เราคุ้นเคยในที่สุด
คราวนี้ก็ได้รู้กันแล้วนะคะว่า แป้งทอดแสนอร่อย ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อปาท่องโก๋ อยู่คู่กับโต๊ะกาแฟยามเช้าของเรามาโดยตลอด มีความหมายถึงการแตกแยก และเป็นขนมที่เกิดมาจากความเคียดแค้นของชาวจีนเมื่อครั้งอดีตกาลก่อนโน้นเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นขนมที่สื่อความหมายไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไรก็ไม่เห็นต้องสนเลย จริงไหมคะ แค่กินแล้วอร่อย และฟินเท่านี้ก็พอแล้วเนอะ
ที่มา : Kapook.com