Tuesday, 20 August 2013

Unlucky Pet- Cotton


Her Name is Cotton 
A little girl who was trussed into black trash bag. She is now feeling  better. 
But there are many other diseases that require treatment. 
She is still wary to human. She needs help and if you would like to help her please Contact  “Vivi Onsirin”  now.

Source of Info :  https://www.facebook.com/photo.php?fbid=382433481857536&set=a.111114848989402.12057.110567645710789&type=3&theater — with Love Doggies,

ถังน้ำ 2 ใบ...


ชายจีนคนหนึ่ง แบกถังน้ำ 2 ใบไว้บนบ่า เพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่ง ไม่มีรอยตำหนิ และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง 

แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับมาสู่บ้าน จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยตำหนิ..เหลือน้ำมาเพียงครึ่งเดียว เหุตการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาได้ถึงสองปีเต็ม ที่คนตักน้ำสามารถตักน้ำมาได้หนึ่งถังครึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจในผลงานเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึกอับอาย ต่อความบกพร่องของตัวเอง มันรู้สึกโศกเศร้ามากกับการที่มันสามารถทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียว ของจุดประสงค์ที่มันถูกสร้างขึ้นมา หลังจากเวลาผ่านไปสองปีที่ถังน้ำมีรอยแตก มองว่าเป็นความล้มเหลว อันขมขื่น 

วันหนึ่ง ที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า "ข้ารู้สึกอับอายตนเอง เป็นเพราะรอยแตกที่ตัวข้า ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน"  คนตักน้ำ ตอบว่า "เของจ้าเคยสังเกตุหรือไม่ ว่ามีดอกไม้เบ่งบานตลอดทางในด้านของเจ้า ที่เดินกลับไปยังบ้านของข้า แต่กลับไม่มีดอกไม้ในอีกด้านหนึ่งเลย เพราะข้ารู้ว่า เจ้ามีรอยแตกอยู่ ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงไปข้างทาง ด้านของเจ้า และทุกวันที่ข้าเดินกลับ เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำต้นไม้เหล่านั้นให้ข้า เป็นเวลาสองปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวยๆ ไปแต่งโต๊ะกินข้าว ถ้าปราศจากเจ้าที่เป็นแบบนี้แล้ว เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้"

"คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และ เป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้ สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น และมองหาวสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง"  


Monday, 19 August 2013

ดู You tube ดีไม่ดี อาจติดคุก..พึงระวังด้วย !!

มีพรรคพวกแจ้งมา ใครเดินทางบ่อยๆ โปรดอ่านและระวังตัวด้วย!!


ขอบอกกล่าว ว่ามีคนไทยเดินทางไป USA แล้วจะกลับ BKK เมื่อไปถึงแอร์พอร์ต ล่วงหน้าก่อน 2 ชม.จึงนั่งเล่น IPad ดูหนังที่ load มาจาก You tube เพลินๆ แต่ถูกจับเฉยเลย ติดคุกอยู่ 6เดือน ภรรยาต้องส่งทนายไปจัดการให้ เพิ่งประกันตัวได้เมื่อวันที่ 12 สค.ที่ผ่านมานี้เอง โดนค่าประกันตัว 1 ล้านบาท!!

จึงขอเตือนกันไว้ นี่เรื่องจริงนะครับ มันมีหลักฐานหมด กล้องวงจรปิด ซูมชัดตามเวลาที่ผู้ถูกจับดูอยู่เลยครับ you tube เปิดดูได้ แต่ห้ามโหลดเก็บไว้ Case นี้คือภาพยนต์ที่มีลิขสิทธิ์ ประเด็นคือละเมิดลิขสิทธิ์ 

เตือนคนรอบข้างที่เดินทางกันบ่อยๆ ด้วยครับ...เสียวแท้น๊อ!!

Big day ‘ruined’ by wedding cake from hell - Facebook fans should read this.



This story came from my favorite news provider 

And they claimed that with more readers than any newspaper in Cumbria, breaking local and national news, events, TV and entertainment, sport and business news for Cumbria and the North" I also agreed to them..... read this story you will feel like me that love to read this news. It was made me smile for a half and hour. !!

Celia and John, a halt-whistle couple have had their wedding reception ‘ruined’ by a shocking wedding cake. Celia and John Gustard married at Gretna Green on the 27 July, but were appalled to see the state of the cake they had set their hearts on.

The couple, both keen bikers, wanted their wedding cake to resemble stacked tyres, as well as some cupcakes to match. Celia had planned for her cake to be made by a reputable cake maker in Morecambe, but when they became ill and unable to work, she looked for another option. She found some recommendations through Facebook and after extensive research she decided on Cake Bakes of Carlisle, owned by Emma Briggs. "How the cake should of looked"

Celia says: “I contacted Emma and met her to discuss the cake that I wanted, told her of the previous person’s illness and that I would forward a photo of the cake to Emma via email. I also sent Emma the telephone number of the original baker to enable Emma to contact and discuss how to make the cake, what ingredients I decided on, the type of decorative ingredients and to ask anything else she wanted to know. Emma told me that she was confident she could make and present me with a stunning wedding cake and I kept in touch with her throughout. 

However, on her wedding day, her husband-to-be called her down to view the cake as she was getting ready. Excited, Celia went down in her dressing gown and rollers to be presented with the ‘monstrosity’ of a cake. “The cake icing was cracked and torn,” says Celia, “and the cake was leaning over to the left, smelled rancid and was an horrific sight to see. The cupcakes also stank and were not what I asked for. Emma said that she would take the whole lot away and  the cake. 


I told her that I was not at all happy and would not pay her the £135 asking price. She left and I finished getting ready to be married.” Later that day after the couple were married, they returned to their reception venue to find the cake, still in the same state (only with some black ribbon added round the joins of the cake) sitting on the beautifully decorated table with roses and their expensive cake topper decorating the cake. The cake on display at the wedding reception" 

Celia said: “I was so shocked, embarrassed and unhappy. We could not bring ourselves to cut and share such an embarrassingly, appalling cake; denying our guests, absent friends and family members, the traditional wedding cake.” 


Celia complained on Cake Bakes’ Facebook page, including a photo of the cake, and received messages from previous customers saying they had had similar experiences but their complaints had been removed from the Facebook page. cake collapsed even more"  

Celia later listed the cake on eBay as a joke, but received over a hundred messages and even 11 bids. She removed the listing as she did not think the cake was safe to eat, but was still overwhelmed by the amount of supportive messages she received.


“We still have the cake and are wondering how to dispose of it, along with the equally disgusting cupcakes she made us” said Celia. “We were thinking of a cremation this weekend!”


Ref : Cumbria Crack: News for Penrith, Appleby, Eden Valley, Keswick, Workington, Whitehaven, Maryport, Barrow, Kendal, Carlisle, Lake District- UK


http://www.cumbriacrack.com/2013/08/18/big-day-ruined-by-wedding-cake-from-hell/


Sunday, 18 August 2013

คุ้นๆ กันบ้างมั้ย ...

ในแต่ละวันคุณทำงานได้มี Productivity สักแค่ไหน? เอาหละสิ คำถามแบบนี้ ได้ยินก็อึดอัดกันทันทีใช่มั้ยหละ ....
นั่นหมายถึงว่า คุณสามารถสร้างผลงานได้ในเวลาทำงานในแต่ละวันได้มากน้อยเพียงใด โดยปกติเวลาทำงานโดยทั่วไปของบริษัท ก็อยู่ที่ 8 ชั่วโมง ในเวลาดังกล่าว คุณสามารถสร้างผลงานได้ตามเป้าหมาย ได้ตามแผนงาน และตามแผนการทำงานประจำวันหรือไม่?
ยิ่งโดยเฉพาะในโลกยุคที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดนแบบนี้ ยิ่งทำให้เราเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในชีวิตของเราเอง และในการทำงานเพื่อสร้างผลงาน
มีงานวิจัยอยู่หลายโครงการที่ศึกษาเรื่องของเวลาทำงาน 8 ชั่วโมงของพนักงานที่ทำงานในบริษัทนั้น ทำงานกันจริงๆ ที่ได้ผลงานออกมาใช้เวลากันกี่ชั่วโมงกันแน่ 

มาเพิ่ม Productivity ในการทำงานในยุค Social Network แรงส์


ปัจจุบันในการทำงานเราต้องอาศัยความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ขณะเดียวกันความหลากหลายและความไกล้ชิดในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน มันก็อาจเป็นตัวขัดขวางการทำงาน การผลิตผลผลิตของเราด้วย ไปมาเกิดมีอะไรน่าตื่นเต้นในช่วงแวลานั้น เราไม่ทำอะไร นั่งเกาะเครื่องดูสถาณการณ์ไม่ว่าทางมือถือหรือ ทางอินเตอร์เน็ต laptop หลากหลายช่องทาง เพลิดเพลินลืมผลผลิตที่ควรได้...

ลองมาดูวิธีการในการ เพิ่ม Productivity ในการทำงาน ที่ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรใน "ต่างประเทศ" เขาใช้กันสักหน่อยว่ามีอะไรบ้าง

เรื่องเล่า : อาม่ากับชามใบเก่า ...



ครั้งหนึ่ง... มีบ้านหลังหนึ่ง มีสามี-ภรรยา ลูกชาย และมีอาม่าแก่ๆ คนหนึ่ง อาม่าแก "แก่มาก" และไม่แข็งแรง มีอาการมือไม้สั่นตลอดเวลา ทำให้ถือของลำบาก โดยเฉพาะเวลาทานข้าวร่วมกับครอบครัว อ่าม่าจะถือชามข้าวได้ลำบากและทำข้าวหกลงบนโต๊ะ อยู่บ่อยๆ

ลูกสะไภ้อ่าม่า ก็รู้สึกหงิดหงิดและรำคาญกับเรื่องนี้มาก จึงปรึกษากับสามีว่า นางทนไม่ได้ ที่จะเห็นอาม่าทานข้าวหกเลอะเทอะเกลื่อนโต๊ะ มันทำให้นางกินข้าวไม่ลง  สามีไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่สามารถหาวิธีการทำให้อาม่ามือหายสั่นได้ ....