"อาตมาพูดมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว เห็นเด็กแต่งชุดดำไปงานศพผู้ใหญ่แล้วรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูก สมัยโบราณคนที่อายุน้อยกว่าไปงานศพผู้ใหญ่กว่าต้องใส่ชุดขาวไป ถ้าหากว่าไปงานศพคนที่เด็กกว่า อายุน้อยกว่า หรือว่ายศต่ำกว่า ถึงใส่ชุดดำได้
อาตมาเห็นมาจนเบื่อแล้ว ตั้งแต่งานพระราชทานเพลิง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ งานถวายพระเพลิงสมเด็จพระศรีนครินทรา พระบรมราชชนนี งานพระราชทานเพลิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เห็นแล้วเบื่อสุดๆ ว่าแต่ละคนที่ไปนี่ใหญ่กว่าท่านทั้งนั้นเลย"
แรกๆ ก็งงที่ได้อ่านเนื้อหาที่มีคนพาดพิงถึงคำกล่าวแบบนี้ ...จนมีคนนำเอาภาพนี้มาโพสต์ๆ ในเฟสบุ๊ค จึงนึกได้ว่าเคยได้รู้เรื่องแบบนี้ผ่านหูผ่านตามาบ้าง แต่ไม่เข้าใจว่า ยังไง อะไร ...ใครมีปัญหา ทำผิดอะไร ...
ส่วนตัว ดิฉันเดาว่า .. ยุคสมัยมันเลือนๆไปจากหลักที่ถูกต้องมาเป็นหลักนิยม ตามหลัก ศก. จนหลงๆ ลืมๆ
ดิฉันจำได้ว่า เราเข้าใจว่า มีงานศพเราต้องแต่งดำ หาชุดดำ เท่านั้น!! ไ่ม่ได้คิดถึงสีขาวเลย เมื่อไรที่นึกถึงสีขาว ดิฉันกลับนึกถึงงานบุญต่างๆ เช่น งานบวช งานถือศีล งานทอดกฐิน ทอดผ้าป่า วันพระวันโกน ทั่วไป ... เช่นนี้
แต่ก็มีหลายครั้ง ที่เห็นคนแก่ มาร่วมงานศพคุณย่า คุณตา เขาจะใส่เสื้อสีขาวกันมา และผ้าถุงสีเข้มๆ แต่ไม่ใช่ดำ แต่เมื่อมางานศพน้องชายดิฉัน 3 คน หลานอีก 1 ครอบครัวดิฉันมีอายุสั้นๆ กันค่ะ พากันเสียไปตั้งแต่อายุน้อยๆ หมด จนแทบจำพิธีงานศพแม่นเลย คือ บ่อยมาก บัดนี้เหลือกันน้อยๆ ไม่กี่คน เราก็เลยปลงตก ไม่ได้อยากได้อะไรมากมาย เพราะเห็นความตายมากเกินเหตุ และเหลือกันน้อยคนมีกำลังสาขาน้อย ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจาก...สร้างบุญทำจิตใจผ่องใส
มาต่อที่การแต่งกายสำหรับงานศพกันค่ะ มีการกล่าวถึงการแต่งกายในงานศพว่า "ธรรมเนียมการไว้ทุกข์หรือเข้าทุกข์ของคนไทยโบราณ นิยมแต่งกายด้วยชุดขาวล้วน เป็นการไว้ทุกข์แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ รวมถึงการไว้ทุกข์ถวายเจ้านายด้วย"
การไว้ทุกข์ด้วยชุดขาวปลอดนี้ บางทีเรียกว่า "เข้าทุกข์ใหญ่" เป็นการไว้ทุกข์เต็มยศแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใส่แขนทุกข์หรือปลอกผ้าสีดำอีก ต่างจากการแต่งเครื่องแบบที่เป็นการแต่งกายตามปกติ แต่ยังไม่ได้ไว้ทุกข์ จึงต้องใส่แขนทุกข์ด้วย
ต่อให้งานศพทั่วๆ ไปก็เหมือนกัน คนตายที่อยู่บนเมรุนั่นอายุ ๖๐ - ๗๐ - ๘๐ ปี ปัจจุบันกลับมีเด็กเมื่อวานซืนใส่ชุดดำไป หากคนรู้ธรรมเนียมพอเห็นแล้วก็สยอง เขาไม่ค่อยใส่ใจกัน งานศพจึงมีเรื่องที่ควรระวัง 2 เรื่อง
เรื่องหนึ่ง ก็คือการไว้ทุกข์ ถ้าคนตายอาวุโสกว่าให้ใส่สีขาวไป แต่ถ้าอายุน้อยกว่า ก็ให้ใส่สีดำ
เรื่องสอง ก็คือ เราเป็นคนส่งศพ ให้เดินตามโลงศพ ไม่ใช่ไปแย่งพระจูงศพ..!
มีพระอาจารย์เล่ามาจาก เวบไซด์พลังจิต ว่า ส่วนใหญ่สมัยนี้เขาไปแย่งกันจับสายสิญจน์จูงศพ เรื่องของการจูงศพเป็นหน้าที่ของพระของเณร ถ้าจะเดินนำศพจริงๆ อนุญาตให้คนถือรูปผู้ตายกับกระถางธูปเท่านั้น นอกนั้นทุกอย่างไปเดินตามอยู่ข้างหลัง เตือนทุกครั้ง เตือนจนตอนนี้เริ่มเข้าหูแล้ว ถึงเวลาจึงวิ่งไปอยู่ท้ายโลง เพราะถ้าขืนมาหน้าโลงอาจจะโดนด้ามตาลปัตรจากพระอาจารย์..! เคาะกบาลเข้าถึงจะนึกได้ (แต่พระในปัจจุบันท่านก็เพี้ยน นึกไม่ออกก็มี)
เขาก็บอกชัดๆ แล้วว่า ไปส่งศพ ไม่ได้ไปจูงศพ แล้วบางคนไม่รู้ไม่พอ ดุพระเณรด้วยนะ “ปล่อยสายสิญจน์ยาวๆ หน่อยสิ ไม่พอจูง” ปล่อยให้หมดม้วนก็ไม่พอหรอก เพราะบางงานคนมาเป็นพันเลย อย่างงานศพ ร้อยตำรวจตรีประเสริฐ บุญยงค์ โยมพ่อของท่านนายกเทศมนตรีประเทศ บุญยงค์ แขกเกิน ๒,๐๐๐ คนแน่นอน ถ้าขืนไปจูงศพแล้วจะเอาสายสิญจน์ที่ไหนมาให้จูง ๕๐๐ เมตรก็คงไม่พอ"
"บุคคลที่จะแต่งชุดสีดำ ต้องอาวุโสด้วยวัยวุฒิคืออายุมากกว่า หรืออาวุโสด้วยคุณวุฒิก็คือยศตำแหน่งสูงกว่า อย่างสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี วัยวุฒิและตำแหน่งของพระองค์ท่านสูงมาก บุคคลที่จะแต่งดำได้จริงๆ ปัจจุบันนี้จะมีอยู่แค่ ๔ พระองค์เท่านั้น ก็คือ ในหลวง สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช แล้วก็สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เพราะว่าพระอิสริยยศสูงกว่า
แต่คราวนี้ในหลวงทรงพระราชทานอิสริยศประดับฉัตร ๗ ชั้น พอได้สัปตปฎลเศวตฉัตรไป ก็เหลือแค่ ๒ พระองค์เท่านั้นที่จะแต่งดำได้ ก็คือในหลวงกับพระบรมราชินีนาถ ความจริงฉัตร ๗ ชั้น พระยศเท่ากับสมเด็จพระราชินีนาถเลยนะ แต่เนื่องจากว่าสมเด็จพระราชินีนาถดำรงตำแหน่งที่สูงกว่า จึงสามารถที่จะแต่งดำได้
เพราะฉะนั้น..ต่อไปถึงเวลาไปงานศพผู้ใหญ่ให้แต่งสีขาวไป สุภาพเรียบร้อยกว่าเยอะเลย แต่ว่าระยะหลังนี่มีค่านิยมอย่างหนึ่งที่เห็นแล้วหงุดหงิด อยากจะเรียกมาโบกเสียที..! ก็คือพวกที่ไปงานศพแล้วแต่งตัวเป็นแฟชั่น เคยเห็นไหม ? เขาตั้งใจแต่งตัวไปอวดกันจริงๆ นั่นเขาเรียกว่าไม่ดูกาลเทศะ
แต่งตัวอย่างกับจะไปเดินแฟชั่นโชว์ ไม่ดูว่าเป็นงานศพ ต่อให้เป็นชุดขาวชุดดำอะไรก็เถอะ เขาถือว่าไม่ให้เกียรติผู้ตาย จะไปไว้อาลัย ไปเพราะเห็นความดีของท่าน ไปเสริมเกียรติยศของท่าน แต่ดันไปทำตัวเพื่อลดเกียรติยศของท่านเสียนี่
พระอาจารย์เลยสรุปว่า ท่านคงแก่เกินไป ตกยุค เดี๋ยวนี้เขานิยมอย่างนั้น แต่เป็นการนิยมที่ผิดกาลเทศะ" ท่านคงหงุดหงิดมิเบา โยมนี่ได้เรียนรู้ และขอบพระคุณผู้นำเอาคำบ่นของท่านมาเขียนให้อ่านความคับอกคับใจของท่าน ... โยมผิดไปแล้ว และจะปรับปรุงไปใช้กับชีวิตประจำวันค่ะ
ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕ - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน/เผยแพร่ผ่านเวบไซด์พลังจิต: เรื่อง สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ) เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕
และนำมาเรียบเรียงใหม่ โดยดิฉันเองค่ะ สรุปความให้เข้าใจแบบเด็กสมัยใหม่อีกที !!!!