Thursday, 13 March 2014

ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย สารภาพเหตุฆ่า 3 ศพ


ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย สารภาพเหตุฆ่า 3 ศพ อ้างเครียดถูกกดดันหลายเรื่องทั้งเรื่องเรียน ผิดสัญญา ติดกล้องตามดูพฤติกรรมที่คอนโดฯ ชี้ตั้งใจยิงแค่แม่คนเดียว แต่กลัวพ่อกับน้องจะตื่น จึงลงมือฆ่าทิ้งทั้งหมด

เป็นเหตุสะเทือนขวัญสำหรับข่าวในประเทศไทยอย่างมาเลยทีเดียว สำหรับข่าวนี้ ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย สารภาพเหตุฆ่า 3 ศพ  

  สืบเนื่องจากคดียิงพ่อแม่ลูกดับ 3 ศพที่บ้านพัก ใน จ.ปทุมธานี ซึ่งลูกชายคนโตให้การว่าเป็นฝีมือน้องชายเนื่องจากไม่พอใจที่ถูกพ่อแม่ดุด่าเพราะติดเกม จึงยิงพ่อแม่เสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม ต่อมาผลการตรวจพิสูจน์กลับพบว่าคดีมีพิรุธ เนื่องจากวิถีกระสุนขัดแย้งกับบาดแผล แถมยังมีภาพขณะที่ลูกชายคนโตไล่ปิดกล้องวงจรปิดภายในบ้านก่อนเกิดเหตุ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

            ล่าสุด วันนี้ (11 มีนาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัควัฒน์ ศรพรหม ลูกชายคนโตของผู้เสียชีวิต ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าพ่อแม่และน้องชายจริง โดยวันเกิดเหตุครอบครัวกินหมูกระทะในบ้านด้วยกัน พ่อดื่มเบียร์และชวนตนดื่มด้วย เมื่อดื่มไปสักพักจึงอยากขับรถพาแฟนมาให้ที่บ้านรู้จัก แม่ก็ไม่ยอมบอกว่า ดื่มเบียร์ไปเยอะ ไม่ให้ขับออกไป เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงเครียด

            นอกจากนี้ที่ผ่านมาถูกครอบครัวกดดันเกี่ยวกับเรื่องการเรียน และพ่อแม่ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า หากตนสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จะซื้อรถยนต์ให้ อีกทั้งแม่ยังไม่ไว้ใจ ไปติดกล้องตามดูพฤติกรรมของตนที่คอนโดฯ ตนจึงปิดกล้องวงจรปิดแต่ละจุดในบ้านก่อนลงมือสังหารคนในครอบครัว หลังจากก่อเหตุก็ลงมานอนข้างล่างและออกไปเรียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนแจ้งความกับเจ้าหน้าที่และอ้างว่าน้องชายเป็นคนยิง 

            โดยในตอนแรกนายอัควัฒน์ ให้การว่า..."ผมได้ยินเสียงตอนตี 3 ผมเลยขึ้นไปดูบนห้องว่ามีอะไรไหม เคาะประตูห้องแล้วเงียบ ผมก็คิดว่าเค้าหลับปกติ ผมก็วิ่งไปดูหน้าบ้านว่ามีใครออกมาดูอะไรไหม ก็ไม่มีอะไร แล้วพอตอนเช้าผมตื่นมา ผมจะไปมหาลัย ช่วงประมาณ 8 โมง ผมก็คิดว่าเค้ายังหลับอยู่ ผมก็ออกไปเลย กลับมาอีกทีตอนเที่ยง ผมโทรหาเค้าตลอดเวลาตอนที่ผมออกไปข้างนอก ติดต่อไม่ได้ ผมก็ให้ป้าผมเข้ามาด้วย ผมก็เลยรีบกลับมาด้วย แต่ก็ยังเปิดอะไรไม่ได้ กลับมาทุกอย่างก็เหมือนเดิม

            คือตอนก่อนขึ้นไปนอน พ่อกับน้องก็มีปากเสียงกัน วันนี้ผมขอเอารถไปใช้ พ่อก็ตามใจ ผมเรียนอยู่มหาลัย มศว ปี 1 เค้าก็ซื้อคอนโดฯ ให้ แต่ช่วงนี้น้องผลการเรียนตก โดนยึดโทรศัพท์ คือมีปัญหากับพ่อ แม่ด้วย ปืนนี้ก็ปืนของพ่อ"

            อย่างไรก็ตาม ภายหลังการสอบสวนนานกว่า 9 ชั่วโมง นายอัควัฒน์ ก็ยอมรับสารภาพในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังดูพฤติกรรมของนายอัควัฒน์ เพราะเกรงว่าจะคิดสั้นก่อเหตุทำร้ายตนเอง เพราะโทษหนัก อาจจะถึงประหารชีวิต และเจ้าหน้าที่จะมีการแถลงข่าวคดีดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้ (11 มีนาคม)

           โดย นายอัควัฒน์ ได้เผยวิธีลงมือฆ่าพ่อแม่และน้องชายว่า ก่อนเกิดเหตุได้วางแผนวางยานอนหลับพ่อกับแม่เป็นยานอนหลับชนิดละลายน้ำ แต่ไม่เป็นผล จึงออกไปซื้อยานอนหลับใหม่เป็นชนิดน้ำ แต่ขวดยากลับตกแตกอีก 

            ต่อมาในวันเกิดเหตุตนเองถูกแม่ด่า จึงรู้สึกโกรธแค้น จนกระทั่งช่วงเวลาตี 3 ได้ขึ้นไปชั้น 2 ของบ้านและพบกระเป๋าบรรจุปืนของพ่อวางอยู่ ตอนแรกตั้งใจว่าจะนำปืนไปยิงแม่แค่คนเดียว แต่เกรงว่าพ่อและน้องชายจะตื่นมาพบ จึงตัดสินใจยิงทิ้งทั้งหมด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนกลัวความผิด จึงนำปืนไปวางไว้ที่มือน้องชาย เพื่อโยนความผิดให้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ก่อนที่ตัวเองจะขับรถกลับบ้านไปแล้วทำทีว่าติดต่อพ่อกับแม่ไม่ได้ และขอให้ป้ามาช่วยดูที่บ้านให้ หลังจากนั้นก็ขับรถไปรับแฟนสาว เพื่อให้มีพยานยืนยันว่าตัวเองเป็นคนบริสุทธิ์ และอ้างเหตุผลที่น้องชายไม่ถูกกับพ่อแม่ โดนตำหนิเรื่องเล่นเกมจนผลการเรียนตกต่ำ

          นอกจากนี้ นายอัควัฒน์ ยังยืนยันว่า สาเหตุในการลงมือปลิดชีพทุกคนในครอบครัว ไม่เกี่ยวกับเงินประกันชีวิตอย่างแน่นอน