จากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลมีความพร้อมที่จะใช้เงินในปีแรก(พ.ศ.2557) แค่เพียง 103,116.27 ล้านบาท หรือ 5.16% เท่านั้น
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีหลายโครงการที่ยังไม่พร้อมที่จะก่อสร้าง โดยหลายโครงการยังไม่มีการศึกษาความเหมาะสม การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การออกแบบ และการเวนคืน ไม่เว้นแม้กระทั่งโครงการตามแผนเร่งด่วน เช่น ปรับปรุงทาง ราง หมอน สะพานของ รฟท. เป็นต้น
ซึ่งมีความพร้อมที่จะใช้เงินในปีแรกแค่ 8,450.87 ล้านบาท จากวงเงิน 140,271.27 ล้านบาท หรือ 6.02% เท่านั้น
ยิ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงยิ่งแล้วใหญ่ มีความพร้อมที่จะใช้เงินในปีแรกน้อยมากคือแค่เพียง 33.33 ล้านบาท จากวงเงินก้อนใหญ่ที่สุดแค่จำนวน 783,552.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.004% เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ จึงน่าเป็นห่วงมากว่า เมื่อรัฐบาลได้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากเพียงใด?
เครดิต/ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
ผู้เขียนขอเพิ่มเติมจากที่มีคนแย้งว่า .... "ก็มีระบบตรวจสอบ ก็ตรวจสอบไปสิ จะกลัวอะไรมีฝ่ายค้านให้ตรวจสอบแล้วไม่ตรวจเองมากกว่า กลัวว่าเราจะล้าหลังประเทศอื่น ยิ่งอาเซียนกำลังมาด้วยแล้วการลื่นไหลของระบบขนส่งจำเป็นอย่างยิ่ง"
คิดได้แค่นี้ กระนั้นหรือ เป็นการขัดขวางแนวคิด หรือหาข้อโต้แย้งที่โง่เง่า ล้าหลังมากมาย... ได้ยินเช่นนี้แล้ว น่าเป็นห่วงประเทศชาติจริงๆ
อยากจะบอกว่า "ระบบตรวจสอบ" แทบจำกัดทุกทาง ในขณะที่ทุกอย่างขณะนี้เข้าข่าย "รัฐเผด็จการ" การร่างระบบตรวจสอบ การทำลายผ่ายตรวจสอบ การข่มขู่ทำลายขวัญคนให้้ข้อมูล การออกมาติติงจากผลการตรวจสอบแบบน้ำขุ่นๆ (แถไปแบบหน้าไม่อาย)
ผู้ตรวจสอบ ล้วนแต่ตกอยู่ในภาวะคับขันอันตรายหมด หากท่านเป็นคนเปิดโปงการตรวจสอบ มีการอุดหนุนให้ทำงานแบบ"เอาหูไปนา ตาไปไร่" อยู่เฉยๆ อย่ากระโตกกระตาก คนทำงานในระบบที่เกี่ยวข้องไว้ใจไม่ได้ ไม่มีศักศรีดิ์เอาเสียเลย ท่องสูตร นิ่งเสียตำลึงทอง...
แบบนี้ จะตรวจสอบอะไรได้ ระบบอะไรจะมาตรวจสอบได้ ถ้าไม่ติติงกันก่อนเกิดเหตุ ....รอให้วัวหายค่อยล้อมคอก กระนั้นหรือ
ประสบการณ์จากโครงการต่างๆ ที่เหม็นโฉ่ ผิดพลาดเห็นๆ ล้างผลาญเงินทองไปมากมาย ยับยั้งอะไรไม่ได้ และยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ ไหนหละ ระบบการตรวจสอบ ทำได้ดีแต่ไหน อะไรๆ ก็เบลอๆ ก่อนจะกู้ ขอแค่ "ควรทำให้เห็น" ก่อนว่ามีระบบการทำงานที่ดี ก่อนกู้จริง แค่คิดไม่เป็นไร แล้วค่อยมาว่ากันเรื่องตรวจสอบ ดีใหม? ระบบการทำงานไม่มีจะเอาระบบไหนมาตรวจสอบนอกจากนั่งชี้ข้อผิดพลาด แล้วก็ลืมๆไป...
หากทำไปแล้ว เราทุกคน..ร่วมลงเรือลำเดียวกันไปหมด ก็คงได้แต่ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือรั่วๆ เพื่อประคับประคองไม่ให้จม ระหว่างการลอยเท้งเต้งไปด้วยกัน
นี่คือ อุปมาอุปมัยที่พอจะเปรียบเปรยแบบลูกทุ่งให้ฟังได้ เผื่อว่าคุยกัน เป็นระบบ เป็นตัวเลข มันจะยากเกินไป เกินกว่าสมองของคนบางระดับจะเข้าใจ เพราะทุกวันนี้เราจะเห็นว่า เอาประเด็นไข่เกิดก่อนไก่ หรือ ไข่เกิดก่อนไข่ มาเป็นข้อโต้แย้งและกล่าวโทษกันเท่านั้นเอง ...มาตั้งบนหัวข้อกฏหมายแล้วพากันตีความเอาชนะคะคานกัน เราไม่ก้าวไปไหนกันเลย..
มุ่งมันโกง กับ มุ่งมันป้องกัน ใครมันจะอึดกว่ากัน...หน้าด้านกว่า ชนะใสๆ คนไทยนิ่งเฉย..งั้นหรือ ...ต่างผ่ายต่างหลับหูหลับตาสนับสนุนฝ่ายที่คนเชื่อถือ....
อึดอัดมาก!
No comments:
Post a Comment